เมนู

สาวกนั้นหวังอยู่ พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองว่า เราเป็นผู้มีนรก
สิ้นแล้ว มีกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานสิ้นแล้ว มีเปรตวิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย
มีทุคติ และวินิบาตสิ้นแล้ว เป็นโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา
เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า.
จบ ปฐมสูตรที่ 7

อรรถกถาปฐมเวรสูตรที่ 7


ปฐมเวรสูตรที่ 7

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ภยํ เวรํ ปสวติ ได้แก่ประสบภัยเกิดจากจิตสะดุ้ง
และเวรเกิดจากบุคคล. บทว่า เจตสิกํ ได้แก่อาศัยจิต. บทว่า
ทุกฺขํ ได้แก่ มีกายเป็นที่ตั้ง. บทว่า โทมนสฺสํ ได้แก่ ทุกข์อันสัมปยุต
ด้วยความแค้น. ในสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงโสดาปัตติมรรค.
จบ อรรถกถาปฐมเวรสูตรที่ 7

8. ทุติเวรสูตร


ว่าด้วยองค์คุณของผู้สิ้นอบาย


[232] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลในแล อริยสาวกสงบ
ระงับภัยเวร 5 ประการ และประกอบด้วยโสตาปัตติยังคะ 4
ประการ ในกาลนั้น อริยสาวกนั้นหวังอยู่ พึงพยากรณ์ตนด้วย
ตนเองได้ว่า เรามีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานสิ้นแล้ว มี
เปรตวิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติ และวินิบาตสิ้นแล้ว เราเป็นพระ-
โสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงแท้ที่จะตรัสรู้
ในเบื้องหน้า.
ก็อริยสาวกระงับภัยเวร 5 ประการเป็นไฉน ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มักฆ่าสัตว์ ย่อมประสบภัยเวรแม้ในปัจจุบัน
แม้ในสัมปรายภพ และย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสทางใจ เพราะ
ปาณาติบาติเป็นปัจจัย อริยสาวกผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ย่อม
ไม่ประสบภัยเวรแม้ในปัจจุบัน แม้ในสัมปรายภพ และไม่ได้เสวย
ทุกข์โทมนัสทางใจ อริยสาวกผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ย่อมสงบ
ระงับภัยเวรด้วยประการอย่างนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มัก
ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ให้ ฯลฯ ผู้มักประพฤติในกาม ฯลฯ
ผู้มักพูดเท็จ ฯลฯ ผู้มักดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้ง
แห่งความประมาท ย่อมประสบภัยเวรแม้ในปัจจุบัน แม้ในสัม-
ปรายภพ และย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสทางใจ เพราะดื่มน้ำเมา คือ
สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท อริยสาวกผู้งดเว้น